กาวยาแนว
กาวยาแนว (Tile Grout) คือวัสดุที่ใช้เติมเต็มช่องว่างระหว่างร่องกระเบื้อง มีหน้าที่หลักคือช่วยยึดเกาะขอบกระเบื้อง ป้องกันน้ำและสิ่งสกปรกซึมลงไปใต้แผ่นกระเบื้อง และเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นผิว
1. ประเภทของกาวยาแนว
กาวยาแนวมาตรฐาน (Cement Grout):
คุณสมบัติ: เป็นแบบที่นิยมที่สุด มีส่วนผสมของปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์และสารเพิ่มแรงยึดเกาะ
เหมาะสำหรับ: ร่องกระเบื้องขนาดทั่วไป (1-7 มม.) ในห้องนั่งเล่น ห้องนอน
กาวยาแนวกันเชื้อรา (Anti-Fungus Grout):
คุณสมบัติ: มีส่วนผสมของสารไมโครแบน (Microban) หรือสารยับยั้งราดำ
เหมาะสำหรับ: ห้องน้ำ และห้องครัว ซึ่งมีความชื้นสูงและเกิดคราบสกปรกง่าย
กาวยาแนวร่องเล็กพิเศษ (Fine Grout):
คุณสมบัติ: เนื้อละเอียดมาก เหมาะสำหรับงานปูชิดที่เว้นร่องเพียง 0.2-1 มม.
เหมาะสำหรับ: กระเบื้องแกรนิตโต้ หรือกระเบื้องตัดขอบ (Rectified Tile)
กาวยาแนวอีพ็อกซี่ (Epoxy Grout):
คุณสมบัติ: ทนทานที่สุด กันน้ำ 100% ทนกรด-ด่าง และสารเคมีรุนแรง สีไม่ซีดจางและไม่เป็นราดำแน่นอน
เหมาะสำหรับ: สระว่ายน้ำ, โรงงานอุตสาหกรรม, หรือห้องน้ำพรีเมียม (ราคาสูงและปูยากกว่าปกติ)
2. วิธีเลือกสีให้เข้ากับบ้าน
เน้นความเรียบเนียน: เลือกสีที่ ใกล้เคียงกับสีกระเบื้อง มากที่สุด จะช่วยให้พื้นดูเป็นผืนเดียวกัน (นิยมมากสำหรับลายหินอ่อน)
เน้นดีไซน์ (Contrast): เลือกสีที่ ตัดกับสีกระเบื้อง เช่น กระเบื้องขาว-ยาแนวดำ หรือกระเบื้องลายไม้-ยาแนวน้ำตาลเข้ม เพื่อเน้นลวดลายการปู (เช่น ลายก้างปลา หรือ Subway)
ข้อแนะนำเรื่องสี: สีอ่อนจะเห็นคราบสกปรกชัดกว่าสีเข้ม หากเป็นพื้นที่ใช้งานหนักหรือห้องครัว แนะนำให้ใช้โทนสีเทาหรือน้ำตาลครับ
3. เทคนิคการยาแนวให้ติดทนนาน
ทำความสะอาดร่อง: ก่อนยาแนว ต้องขูดเศษปูนกาวและฝุ่นออกจากร่องกระเบื้องให้หมด เพื่อให้ยาแนวยึดเกาะได้เต็มที่
ผสมตามสัดส่วน: ควรตวงน้ำและผงยาแนวตามสัดส่วนข้างถุง ไม่ควรผสมให้เหลวเกินไปเพราะจะทำให้ยาแนวหดตัวและหลุดร่อนง่าย
การปาด: ใช้ เกรียงยาง ปาดแนวเฉียง 45 องศากับร่อง เพื่อให้ยาแนวลงไปเต็มร่องแน่นที่สุด
รอเวลา: หลังจากยาแนวเสร็จ ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาทีแล้วใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดหน้ากระเบื้อง
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
เพื่อเพิ่มรายการโปรดของคุณ