ไม้บัว
1. ตำแหน่งที่ติดตั้ง (Where to use)
ไม้บัวแบ่งตามจุดที่ใช้งานหลักๆ 4 จุด:
บัวพื้น (Skirting): ติดรอยต่อพื้นกับผนัง ป้องกันผนังเลอะและซ่อนช่องว่างวัสดุปูพื้น
บัวฝ้า (Cornice/Crown): ติดรอยต่อผนังกับเพดาน ซ่อนรอยแตกและเพิ่มความหรูหรา
บัวคาดกลาง (Chair Rail): ติดกลางผนัง (สูง ~80-100 ซม.) เพื่อแบ่งโซนสีหรือกันพนักเก้าอี้กระแทก
บัวบันได: ใช้เก็บขอบบันไดและชานพักให้รอยต่อดูต่อเนื่องและปลอดภัย
2. วัสดุที่นิยมในปี 2568 (Materials)
ปัจจุบันวัสดุสังเคราะห์ได้รับความนิยมสูงขึ้นมากเพราะดูแลรักษาง่าย:
PU (Polyurethane): เกรดพรีเมียม ลายชัดมาก น้ำหนักเบา ทาสีทับได้ ใช้ได้ทั้งในและนอกอาคาร
PS (Polystyrene): ยอดนิยมสำหรับคอนโดและบ้านสมัยใหม่ สีสำเร็จรูปจากโรงงาน กันน้ำ กันปลวก 100%
WPC (Wood Plastic Composite): แข็งแรง ทนทาน ให้ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริงที่สุดแต่ไม่กลัวปลวก
HMR (High Moisture Resistance): ไม้บดอัดทนชื้นสูง ผิวเรียบเนียน เหมาะกับงานบิ้วอินที่ต้องการความเป๊ะ
อลูมิเนียม/สแตนเลส: เหมาะกับสไตล์ Modern Luxury ทนทานสูงมาก และบางรุ่นซ่อนสายไฟได้ด้วย
3. เทรนด์การตกแต่ง (2568 Trends)
Minimalist Geometric: บัวหน้าเรียบ ทรงสี่เหลี่ยม หรือขอบมนเล็กน้อย (Bullnose) สีขาวหรือสีครีม
Seamless Look: การเลือกบัวสีเดียวกับผนัง เพื่อให้ห้องดูสูงและกว้างขึ้นโดยไม่ถูกตัดเส้นสาย
LED Skirting: บัวพื้นที่มีช่องสำหรับใส่ไฟเส้น LED เพื่อสร้างบรรยากาศและใช้เป็นไฟนำทางตอนกลางคืน
4. อุปกรณ์ติดตั้งที่ต้องมี (Installation Gear)
กาวตะปู (Construction Adhesive): ใช้ยึดติดผนังโดยไม่ต้องเจาะ
เครื่องตัดองศา (Miter Saw): เพื่อตัดมุม 45 องศาให้ประกบกันสนิท (มุมห้อง)
อะคริลิคยาแนว (DAP): ใช้เก็บรอยต่อระหว่างบัวกับผนังให้เนียน
ตะปูลม (F30): ช่วยยึดประคองในขณะที่รอกาวแห้ง
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
เพื่อเพิ่มรายการโปรดของคุณ