ปัญหา เครื่องซักผ้าไม่ปั่นแห้ง เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งกับ เครื่องซักผ้าฝาบน เป็นเครื่องซักผ้าที่มีฝาเปิด ปิดอยู่บริเวณด้านบน ระบบการทำงานในการซักจานจะหมุนในลักษณะแนวตั้ง มีโปรแกรมการใช้งานให้เลือกใช้งานง่าย และสะดวก สามารถซักผ้าได้ปริมาณมาก และใช้เวลาซักน้อยกว่าเครื่องซักผ้าฝาบน แต่จะใช้ปริมาณน้ำ และไฟในการซักผ้าแต่ละครั้งค่อนข้างนานกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า ส่วนเครื่องซักผ้าฝาหน้า เป็นเครื่องซักผ้าที่มีฝาอยู่บริเวณด้านหน้าเครื่องซักผ้า ระบบการทำงานจานจะหมุนในลักษณะแนวนอน เครื่องเดียวจบทั้งโปรแกรมซัก และปั่นแห้ง มีหลากหลายโปรแกรมการซักให้เลือกใช้งาน เหมาะสำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดมิเนียม แต่จะมีราคาที่สูงกว่าเครื่องซักผ้าฝาบน และซักผ้าได้ปริมาณที่น้อยกว่า ซึ่งปัญหา เครื่องซักผ้าปั่นแห้งไม่ทำงาน ของเครื่องซักผ้าทั้งสองประเภท เกิดขึ้นได้จากสาเหตุ จำเป็นต้องตรวจสอบภายในเครื่องซักผ้าว่ามีส่วนใดผิดปกติ ดังนี้ ![]() | ![]() | ![]() |
|---|
สาเหตุนี้เป็นสาเหตุเบื้องต้นที่คุณแม่บ้าน และคุณพ่อบ้านสามารถสังเกตได้ด้วยตนเอง ว่าเครื่องซักผ้าที่กำลังใช้งานอยู่นั้นปิดฝาสนิทหรือไม่ ซึ่งหากเครื่องซักผ้าปิดฝาไม่สนิท ที่บริเวณตัวเครื่องจะแสดงสัญลักษณ์เพื่อแจ้งเตือนว่า บริเวณฝาถังเครื่องซักผ้าเกิดปัญหา หรือไม่ได้ปิดฝาถัง ส่งผลให้เครื่องซักผ้าไม่ยอมระบายน้ำ หรือปั่นหมาด หรือลองเช็กบริเวณเซนเซอร์ของฝาถังเครื่องซักผ้าว่าเสียหรือไม่ หากสวิตช์ไม่ทำงาน แสดงว่าสวิตช์บริเวณฝาถังอาจจะเกิดความเสียหาย ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ด้วยตนเอง แต่หากไม่มีความชำนาญ แนะนำให้ปรึกษา หรือเรียกใช้บริการช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย และไม่มีปัญหาตามมาหลังการซ่อมแซมครับ
ในกรณีที่ ถังปั่นแห้งไม่หมุน บางครั้งเกิดจากการที่คุณแม่บ้านใส่เสื้อผ้าที่ต้องการปั่นแห้งในปริมาณที่มากจนเกินไป ซึ่งจำเป็นต้องกะปริมาณเสื้อผ้าที่ต้องการปั่นแห้งในปริมาณที่เหมาะสม หรืออีกหนึ่งวิธีคือ แยกปั่นระหว่างเสื้อกับกางเกง เพื่อลดการเกิดปัญหา เครื่องซักผ้าปั่นแห้งไม่ทำงาน แถมยังช่วยถนอมเสื้อผ้าอีกด้วยนะครับ
เครื่องซักผ้าไม่ปั่นแห้ง และไม่ระบายน้ำทิ้ง สาเหตุหลักที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาจาก ปั๊มน้ำทิ้งเครื่องซักผ้า หรือ มอเตอร์เดรนน้ำทิ้ง เกิดการชำรุดเสียหาย หรืออุดตัน ตัวมอเตอร์เดรน คือ อะไหล่สำคัญที่อยู่ในเครื่องซักผ้า เป็นส่วนที่ปล่อยท่อน้ำทิ้งให้ออกจากเครื่องซักผ้า ซึ่งจะอยู่ในทุกกระบวนการทำงานของเครื่องซักผ้าทั้ง ซักผ้า ล้างน้ำ และปั่นแห้งครับ ภายในเครื่องซักผ้าจะมีท่อติดตั้งสำหรับการทำงานอยู่ 3 ท่อบริเวณด้านหลังคือท่อสีเทาหรือท่อระบายน้ำท่อสีแดงหรือท่อน้ำร้อนและท่อสีฟ้าซึ่งเป็นท่อของน้ำเย็นโดยให้เช็กท่อระบายน้ำสีเทาว่ายังอยู่ในสภาพปกติไม่หักงอหรือบุบเสียหายหากเกิดการหักงอให้ลองเปลี่ยนท่อใหม่เพื่อช่วยให้น้ำระบายได้ดีขึ้นแต่ในกรณีที่ท่อน้ำระบายสีเทามีสภาพปกติไม่เกิดความเสียหายอาจเกิดจากสาเหตุตัวปั๊มและท่อเกิดการอุดตันจากสิ่งสกปรกเช่นฝุ่นผ้ากระดุมหรือเศษผ้าชิ้นเล็กๆ ซึ่งต้องลองถอดท่อออกมาล้างทำความสะอาด แต่ระหว่างการถอดต้องระมัดระวังไม่ให้น้ำไหลออกมาจากท่อหรือปั๊มน้ำ โดยการติดแคลมป์รัดท่อที่บริเวณจุดที่ต่อกับเครื่องซักผ้า ![]() | ![]() | ![]() |
|---|
การล้างทำความสะอาดตัวกรอง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำออกจากตัวเครื่องซักผ้าได้ เพราะเป็นการกำจัดสิ่งสะสม เช่น เส้นผม กระดุม ที่เป็นต้นเหตุของการอุดตันบริเวณท่อระบาย และต้องหมั่นล้างถังซัก 1-2 เดือนครั้ง เพื่อช่วยปริมาณคราบมันของน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม รวมถึงคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ ซึ่งการทำความสะอาดถังซักผ้า ทุกบ้านก็สามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยการเลือกโปรแกรมล้างถังซักที่มีมาให้ที่ตัวเครื่องซักผ้าในแต่ละรุ่นครับ กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
เพื่อเพิ่มรายการโปรดของคุณ